การปฏิรูปการศึกษา

การปฏิรูปการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาล้าหลังของการศึกษาไทย

ปัญหาความล้าหลังของการศึกษาไทย ที่ผ่านมา ผู้ที่เกี่ยวข้องในการศึกษามีความพยายามในการปฏิรูปมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้มีการปฏิรูปหรือแก้ปัญหาอย่างแท้จริง มีเพียงแค่รูปแบบเท่านั้น ไม่ได้เน้นที่เนื้อหา ทั้งที่งบประมาณการศึกษาของไทย เมื่อเทียบสัดส่วนจีดีพีแล้ว มีค่าสูงกว่าหลายๆ ประเทศ แต่ส่วนใหญ่เป็นการนำงบประมาณการศึกษาไปจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ เทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ ให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนสื่อในการเรียน การสอน เท่านั้น

ในปี พ.ศ. 2561 มีการเปิดเผยสถิติบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนในกรุงเทพมหานคร สังกัด กทม. พบว่า มีนักเรียน จำนวน 23,000 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 170,000 คน ที่มีปัญหาในด้านการอ่านหนังสือ ซึ่งปัญหาการอ่านหนังสือนั้น เกิดจากการที่ระบบการศึกษาไทยไม่ได้สอนให้คิดวิเคราะห์ แต่เน้นการเรียนแบบท่องจำและกวดวิชา ทำให้เด็กไม่เข้าใจเนื้อหาและไม่สามารถตอบคำถามเชิงวิเคราะห์ได้

การปฏิรูปการศึกษา

จากผลสถิติทำให้ทราบ ปัญหาล้าหลังของการศึกษาไทย เพิ่มมากขึ้น พบว่า มีอยู่ 3 อันดับที่เด็กไทยได้รับผลกระทบ นั่นคือ

1. เด็กไทยในชนบทความรู้ล้าหลังกว่าเด็กไทยในเมืองถึง 3 ปี
2.นโยบายทางการศึกษาไม่ต่อเนื่อง
3. ระบบการศึกษามีกฎระเบียบมากเกินไป

นอกจากครูมีหน้าที่ในการสอนหนังสือ ให้ความรู้แก่เด็กแล้ว ครูยังต้องแบ่งเวลาในการจัดทำเอกสารการประเมินการศึกษาให้ผ่านการประเมินจากหน่วยงานกลาง ส่งผลให้ครูไม่มีเวลาในการสอนหนังสือได้อย่างเต็มที่และส่งผลให้เด็กไม่ได้เกิดการเรียนรู้ คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ด้วยตนเอง

การปฏิรูปการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาความล้าหลังของการศึกษาไทย จำเป็นต้องปฏิรูปอย่างจริงจังในหลายระดับ แก้ไขโครงสร้างการบริหารที่ต้องกระจายอำนาจ ปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา ปฏิรูปครู ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเด็กไทยในชนบทและเด็กไทยในเมือง และสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องปลูกฝังให้กับตัวของเด็ก คือ ส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือนิทานหรือหนังสือการ์ตูน จะช่วยทำให้เด็กมีความสนุก มีความสนใจที่อยากจะอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น เกิดการคิด จินตนาการ อย่าเพิ่งไปเน้นหนังสือที่เป็นวิชาการ หนังสือเรียนมากจนเกินไป จะทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่ายได้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ hoteldehollande.com

UFA Slot

Releated